5 วิธีสร้าง mindset ที่ดีให้กับเด็ก พร้อมเติบโตในโลกอนาคต

ความสำคัญในการสร้าง Mindset ที่ดีให้กับเด็ก ๆ เพื่อเติบโตสู่โลกอนาคตในยุคดิจิตัล

Category :

1_Cover website

การสร้าง Mindset ที่ดีให้กับเด็ก

คำว่า ‘Mindset’ นั้น ที่จริงแล้วก็เป็นคำที่ถูกใช้มาอย่างยาวนาน แต่เริ่มมาเป็นที่นิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เพราะมนุษย์นั้นค่อย ๆ ที่จะเริ่มเล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องความคิดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในยุคสมัยนี้ผู้คนได้หันมาสนใจและเอาใจใส่ในเรื่องความรู้สึกนึกคิดกันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการปลูกฝังให้มีการใช้ Mindset อย่างเหมาะสม

น้องๆ ยุคใหม่ ต้องมีหลายทักษะ
ลงทะเบียนฝึกทักษะการคิด แก้ปัญหา และสร้างสรรค์นวัตกรรมให้น้องๆ กัน !

 

Mindset คืออะไร มีกี่ประเภท?

ความคิดมายเซ็ท (Mindset) คือ ความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของบุคคลนั้น ๆ แต่ละคนต่างก็มีความคิดที่แตกต่างกันไป โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดความคิดเหล่านั้น มาจากการเลี้ยงดูจากคนในครอบครัว สังคม รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมที่เราได้อาศัยอยู่ อีกทั้งความคิดต่าง ๆ ของแต่ละบุคคลนั้นยังมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีถูกปะปนกันไปอีกด้วย ซึ่งการที่เรานั้นมีความคิดหรือ Mindset ที่ดีจะช่วยให้จิตใจรู้สึกสบายและสงบผ่อนคลาย ส่งผลให้ลดปัญหาด้านต่าง ๆ ที่เกิดจากความขุ่นเคืองและคับข้องใจที่มักเกิดขึ้นในสังคมได้ ซึ่งเราสามารถแยก Mindset ออกเป็นประเภทหลักๆได้ 2 ประเภท นั่นก็คือ Growth mindset และ Fixed mindset

Growth mindset vs Fixed mindset

Growth mindset คือ กรอบความคิดแบบพัฒนาขึ้นไปจุดเด่นของผู้ที่มีความคิดแบบ Growth Mindset ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดเลยก็คือ พวกเขาจะไม่มีความคิดที่ปิดกั้นตนเองเลย พวกเขาจะไม่ปฏิเสธสิ่งท้าทายใหม่ ๆ เพราะชีวิตในแต่ละวันมักจะมุ่งไปที่ประเด็นของการจัดการกับชีวิตของตนเองและพร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาอยู่เสมอ และยังยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมถึงคำวิจารณ์เพื่อนำมาพัฒนาตนเอง

Fixed Mindset คือ ความคิดแบบอยู่กับที่หรือความคิดที่ไม่มีการพัฒนา ผู้ที่มี Fixed Mindset นั้นมักจะเป็นกลุ่มคนที่เมื่อพบกับปัญหาก็มักจะเลือกที่จะเดินหนีและเมื่อพบเจอกับอุปสรรคเขาก็เลือกที่จะหลบเลี่ยง ส่งผลให้เข้าสังคมและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างยากลำบาก 

3 วิธีการสร้าง Growth mindset

คนที่มีความคิดแบบ Fixed Mindset นั้นหากปรับปรุงในเรื่องของความคิดแบบนี้ได้ ก็จะทำให้การใช้ชีวิตดูมีสีสันและมีความหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการฝึกตนเองให้มีความคิดแบบ Growth Mindset หรือความคิดแบบพัฒนาสามารถทำได้ ดังนี้

รู้จักตัวเอง การรู้จักตัวเองจะทำให้เราสามารถทราบได้ว่าตนเองเป็นคนที่มีนิสัยอย่างไร และหากพบเจอกับความสุขหรือเจอกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความยากลำบากแล้วจะเป็นอย่างไร หรือควรจะทำอย่างไรจึงจะสามารถก้าวผ่านมันไปได้ โดยเราทุกคนนั้นจะมี Fixed Mindset เป็นของตนเองอยู่แล้วที่เป็นเสียงในหัวเราที่สกัดกั้นไม่ให้เราทำสิ่งใหม่ๆ หากเราจะต้องการพัฒนาตนเองให้มีความคิดแบบ Growth Mindset ราควรจะตอบกับเสียงนั้นว่าอย่างไรจึงจะเหมาะสม

ตอบสนองต่อเสียง เมื่อ Fixed Mindset หรือเสียงนั้นเกิดในหัว เราคิดที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาหรือไม่ดังนั้นหากอยากพัฒนาตัวเองให้มีการพัฒนา Mindset ที่ดีมากยิ่งขึ้นก็จะต้องตอบสนองต่อเสียงในหัว โดยเลือกที่จะฟังเสียงที่เกิดขึ้นภายในหัวและไตร่ตรองเอาว่าควรทำหรือไม่ควรทำ

ปรับเสียงในหัว ลองปรับเสียงในหัวจากคำว่า “ฉันทำไม่ได้” ให้กลายเป็นคำว่า “ถ้าฉันฝึกบ่อย ๆ ก็คงจะดีขึ้นเอง” มันก็จะเปลี่ยนจาก Fixed Mindset ให้กลายเป็น Growth Mindset โดยอัตโนมัตินั่นเอง

นอกจากนี้ การที่เด็ก ๆ มี Growth mindset มองว่าความเก่งของคนเราเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าเกิดเด็ก ๆ ก็จะเริ่มคิดหาวิธีว่าจะทำให้ตนเองเก่งขึ้นได้อย่างไร ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการฝึกฝนในทักษะต่าง ๆ และส่งผลให้ชำนาญในทักษะเหล่านั้นมากขึ้น โดยผู้ปกครองสามารถเริ่มสร้าง Growth Mindset ให้พวกเขาได้ง่ายๆผ่าน “คำพูด” ที่เราใช้กับเขานั่นเอง

1) ชื่นชมความพยายามมากกว่าพรสวรรค์

การที่เราพุ่งตรงไปชมที่ความเก่งและให้รางวัลเขา ด้วยคำว่า “เก่งจังเลย” จะเป็นการเสริมสร้างให้เขาคิดว่าความเก่งนั่นแหละ คือ สิ่งที่ผู้ปกครอง หรือผู้ใหญ่หลาย ๆ คนต้องการให้เขาเป็น ส่งผลให้เมื่อเขาเริ่มทำสิ่งท้าทายใหม่ๆและผลออกมาไม่ดี เขาจะรูสึกไม่อยากทำต่อและไม่ยอมทำ ส่งผลให้ขาดการฝึกทักษะใหม่ๆหรือไม่กล้าพัฒนาตนเองต่อไปในอนาคต ทำให้เห็นว่าเด็ก ๆ จะมี Fixed mindset ไปโดยปริยาย

ดังนั้นการพูดเสริม Growth mindset ให้กับเด็ก ๆ จึงควรชมที่ “ความพยายาม” เช่น หากเขาทำกิจกรรมได้ดี หรือได้รับผลการเรียนที่ดี ก็ควรออกปากชมเขาประมาณว่า เราภูมิใจกับเขานะที่สามารถทำให้ผลลัพธ์ต่างๆออกมาได้ดีขนาดนี้ เขาพยายามอย่างหนักเลยใช่ไหม แล้วก็ชี้ให้เขาได้เห็นว่านี่คือผลจากความพยายามของเขา การที่เราพูดแบบนี้จะเป็นการปรับ Mindset ของเด็ก ๆ ให้เค้ามีความคิดว่าที่เขาทำได้ดีเพราะพยายามอย่างเต็มที่ ทำให้ไม่ว่าจะเจอกับสถานการณ์ใด ก็สามารถใช้ความพยายามในการก้าวผ่านมันไปให้ได้

2) อย่าเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น

หลายครั้งที่ผู้ใหญ่มักจะเผลอพูดกับเด็ก ๆ ประมาณว่า ดูคนนั้น ดูคนโน้นสิ เขายังทำได้เลย ทำไมหนูทำไม่ได้ ซึ่งในมุมของผู้ใหญ่นั้นอาจจะคิดว่านั่นคือคำพูดที่ช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้เด็ก ๆ คิดทีจะพัฒนาตนเอง แต่จริงๆแล้วคำพูดเหล่านี้ทำให้เด็ก ๆ เกิดความรู้สึกว่าเขาไม่ดี เขาได้เก่งเหมือนคนอื่น และยิ่งตอกย้ำให้เด็กมีกรอบคิดแบบ Fixed Mindset และทำให้เด็กให้ความสำคัญไปที่ความเก่งมากกว่าความพยายาม

วิธีการพูดเรื่องความสำเร็จของคนอื่นให้เด็ก ๆ ฟังนั้นควรจะพูดให้เด็ก ๆ เกิดการตั้งคำถามว่าทำไมคน ๆ นี้เขาถึงทำได้ดี ทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จ ซึ่งจะช่วยให้เด็ก ๆ มองไปที่กระบวนการรวมไปถึงชี้ให้เขาเห็นถึงความพยายาม ที่กว่าจะประสบความสำเร็จนั้นจะต้องผ่านอะไรมาบ้าง และยังเป็นการปรับ Mindset ที่ดีให้กับเด็ก ๆ ว่า ถ้าเรามีความพยายามและวิธีการที่ดี เราก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

3) พาเด็กไปทดลองทำสิ่งใหม่ๆ

การพาเด็ก ๆ ไปทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ เป็นการฝึกให้เขาได้พบเจอประสบการณ์และความท้าทายใหม่ ๆ ตามหลักการเรียนรู้แบบ Active learning ที่จะฝึกให้เขาได้พบเจออุปสรรคหรือปัญหาที่เขาจะต้องแก้ไขด้วยตนเอง ซึ่งผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองควรที่จะบอกเขาว่าสิ่งเหล่านั้นเป็น “ความท้าทาย” ที่จะเสริมสร้างประสบการณ์ให้เขา มากกว่าที่จะบอกเขาว่า “อย่าไปทำเลย” เพราะมันลำบากหรือเพราะว่ายุุ่งยากเพื่อเสริมสร้างมายเซ็ทที่ดีให้กับเด็ก ๆ 

การที่เราพูดกับเขาว่า “อย่าไปทำเลย” แบบนี้ อาจจะสร้างกรอบคิดเรื่อง Fixed mindset ไม่กล้าเผชิญกับอุปสรรคเลือกที่จะหนีอุปสรรค จะทำให้เขาหยุดพัฒนา นอกจากนี้เราอาจจะชวนเขามาวางแผนหรือชี้แนะ เพื่อทำให้ปัญหาหรืออุปสรรคนั้นลดน้อยลง และเน้นย้ำว่า เพราะการมองอุปสรรคเป็นความท้าทายทำให้เขาสามารถผ่านอุปสรรคไปได้สำเร็จและเกิดผลลัพธ์ที่ดี โดยไม่หนีจากปัญหาไปซะก่อน 

5 Mindset ที่ดี สำหรับเด็กต้องพัฒนาเพื่ออนาคต

การมี Mindset ที่ดีนั้นส่งผลต่าง ๆ มากมายต่อสังคมเพราะในยุคดิจิตัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กว่าที่เด็ก ๆ จะเติบโตผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันไปได้นั้น ไม่ใช่แค่ต้องรู้จักปรับตัวอย่างเดียว แต่พวกเขาจะต้องปรับ ‘แนวคิด’ หรือ ‘Mindset’ ไปด้วย การปรับเปลี่ยนมายเซ็ทนั้นจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้รู้จักการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองหรือสิ่งต่างๆ รอบตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิม

1) Global mindset

Global mindset คือ ทัศนคติหรือกรอบความคิดแบบสากล เป็นการมองในมุมกว้างที่ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะความรู้หรือข้อมูลที่มีแค่ในประเทศหรือเพียงแค่ในสังคมที่ตนอาศัยอยู่ แต่ต้องรู้ให้เท่าทันโลกที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว  ซึ่งทัศนคติแบบสากลนี้ ถือเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรปลูกฝังและเสริมสร้างให้กับเด็ก ๆ เพื่อก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่

2) Outward mindset

Outward Mindset คือ การคิดแบบมีแนวคิดและทัศนคติประกอบการแก้ไขปัญหา โดยจะมุ่งเน้นไปที่ตัวของผลลัพธ์เป็นสำคัญ ที่เด็ก ๆ จะต้องให้ความสำคัญทั้งตัวเองและผู้อื่นด้วย ดังนั้นจึงจะต้องอาศัยทักษะของการทำงานเป็นทีม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเป็นที่น่าพึงพอใจและประสบความสำเร็จ การเสริมสร้าง Outward Mindset ให้กับเด็ก ๆ จึงเป็นการฝึกทักษะการทำงานเป็นทีมให้กับเด็ก ๆ ไปในตัวอีกด้วย

3) Entrepreneurial mindset

Entrepreneurial Mindset คือ กรอบความคิดในเรื่องของการลงมือปฏิบัติ โดยการที่จะลงมือปฏิบัติได้นั้นเด็ก ๆ จะต้องมีความสามารถในการเรียนรู้และศึกษาในปัญหานั้น ๆ โดยใช้ทักษะการแก้ปัญหา จนเกิดความเข้าใจเพื่อให้บรรลุและสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ซึ่งบุคคลที่มีกรอบความคิดในรูปแบบแบบ Entrepreneurial Mindset นี้อย่างเด่นชัดที่เราสังเกตุเห็นได้นั้น มักจะเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจรายใหญ่ที่ประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่

4) Innovation mindset

Innovation Mindset คือ กรอบความคิดเชิงนวัตกรรม ซึ่งคำว่า ‘นวัตกรรม’ นี้ไม่ได้หมายถึงอุปกรณ์ที่มีความล้ำความทันสมัยอย่างที่เราได้เห็นกันในปัจจุบันเพราะนั่นคือเทคโนโลยี คำว่านวัตกรรมนั้นคือการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่ให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในด้านที่ดีมากยิ่งขึ้นซึ่งมายเซ็ทรูปแบบนี้เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ในรูปแบบ STEM ศึกษาให้กับเด็ก ๆ อีกด้วย

ผู้ที่มีความคิดแบบ Innovation Mindset เป็นผู้ที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และไม่ย่อท้อต่อความลำบาก และมีความมุ่งมั่น อดทนและเพียรพยายามที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อทำให้สิ่งเหล่านั้นให้สามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยการนำจินตนาการของตนเองมาทำการศึกษาและเรียนรู้จนเข้าใจและลงมือทำสิ่งเหล่านั้นให้สามารถเกิดขึ้นได้

5) Digital mindset

Digital Mindset คือ กรอบความคิดหรือ Mindset ที่จะเสริมสร้างให้เด็ก ๆ รอบรู้เท่าทันโลกยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและในคำว่า  Digital ในที่นี้หมายถึง ทุกสิ่งอย่างรอบตัวที่มีการพัฒนาให้มีความทันสมัย ซึ่งในปัจจุบันสิ่งเหล่านั้นก็มีให้เด็ก ๆ รวมถึงผู้ปกครองอย่างเราได้พบเห็นอย่างมากมาย อยู่ที่ว่าเรานั้นจะสามารถก้าวทันมันหรือไม่นั่นเอง

สรุปการสร้าง mindset สำหรับเด็ก

Code Genius เป็นสถาบัน codingacademy สำหรับเด็กที่คุณครูใช้จิตวิทยาในการปรับ mindset ที่ดีให้กับเด็ก ๆ ในการเรียนทำให้น้อง ๆ เปิดใจทำในสิ่งที่ตอนแรกอาจจะไม่ชอบได้ โดยกิจกรรมในหลักสูตรต่าง ๆ ของ Code Genius ในช่วงแรกนั่นมีช่วง Ice breaking เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรมให้น้องๆได้รู้สึกสนุกและเกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดีภายในชั้นเรียน จากนั้นจึงจะเริ่มเนื้อหาหลักที่ต้องการให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้ แล้วจบด้วยกิจกรรม Additional เป็นการเสริมสิ่งที่จำเป็นต่อไป

น้องๆ ยุคใหม่ ต้องมีหลายทักษะ
ลงทะเบียนฝึกทักษะการคิด แก้ปัญหา และสร้างสรรค์นวัตกรรมให้น้องๆ กัน !

บทความที่เกี่ยวข้อง